วันจันทร์ที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2555

วันแม่



วันแม่







ใคร่ควรก่อนนะน้อง ดีชั่ว
ยามแม่เอ็นดูตัว กล่อมให้
เป็นที่พึ่งลูกทั่ว ทุกแห่ง นา
ดื่มน้ำนมแม่ไว้ อย่าทิ้ง แม่นาฯ

เป็นทางสวรรค์นั้น คือแม่
เลี้ยงลูกท่านอยากแน่ มุ่งชี้
เลี้ยงท่านจนถึงแก่ อย่าปล่อยทิ้งนา
เป็นโชคจริงอย่างนี้ แม่นั้น พระอรหันต์ฯ

สิบสองสิงหานั้น ระลึก
น้อมกายวางใจตรึก แม่เจ้า
หนึ่งชีวิตลองนึก ยากเกิด มานา
ผู้รู้คุณแล้วเฝ้า กราบไหว้ แม่คุณฯ

ปูชนียบุคคลนั้น พ่อแม่
แนะนำทางดีแก่ ลูกน้อย
สอนลูกตนก่อนแต่ ครูอาจารย์
ยกอักษรถักถ้อย มุ่งชี้ พระคุณฯ



วันแม่


      ๑๒ สิงหาคมเป็นวันแม่ ลูกแน่วแน่ตั้งใจจะกราบแม่
แม่คอยสอนอบรมคอยดูแล พระคุณแม่ยิ่งใหญ่กว่าสิ่งใด
จะเคลียดเรื่องลูกชายลูกสาวและ โรคภัยที่มาเยือน แม่ต้องเคลียดต้องทนทุกข์ทรมาน ทุกวันนี้แม่ของฉันถูกพี่ชายด่าทุกวัน เวลาแม่พูดอะไรไม่ถูกใจพี่ชายก็จะต่อว่า ทุกเช้าทุกเย็นแม่จะคอยหาอาหารให้ลูกๆ และสามีกินทั้งๆที่ตัวเองป่วยแม่ก็ยังหาอาหาร และทำทุกอย่างแม่ต้องใช้เงินตัวเอง ที่พี่ชายที่เป็นสามเณรให้เพื่อไปหาหมอแต่ตัวเองกลับนำเงินไปซื้ออาหารให้ ลูกแม่รักลูกเท่าๆกัน และรักลูกมากแม้กระทั่งลูกทำผิดแม่ก็ยังให้อภัย มีวันหนึ่งพี่ชายของดิฉันเมาสุรากลับ มาโมโหใส่แม่มาอาราวาดจนแม่นอน ไม่หลับทั้งคืน เกือบจะฆ่าแม่แต่ดีพ่อมาช่วยทัน แม่ก็ยังให้อภัยและมีครั้งหนึ่งดิฉันหนีเรียนไปค้างบ้านเพื่อนพอดิฉันกลับมา ถึงบ้านถูกพ่อด่า แต่แม่กลับเข้ามากอดดิฉันปลอบใจและบอกว่าไม่เป็นไร แม่ต้องเลี้ยงลูก 5 คน ด้วยความยากลำบาก จนกระทั่งลูกโตเป็นหนุ่มเป็นสาว แต่ลูกกลับไม่ใยดีแม่สร้างแต่ปัญหาให้แม่กลุ้มใจ ขึ้นเสียงกับแม่ไม่เคยทำงานช่วยแม่ สร้างภาระให้แม่และยังใช้แม่ซักผ้า และลูกบางคนไม่กล้าจะพาแม่ไปไหนมาไหนเพราะอายและกลัวว่าแม่จะทำให้อับอาย เพราะว่าแม่เป็นกะเหรี่ยงพูดไม่ชัดทำตัวเชยๆ ตอนที่ดิฉันอยู่ประถมดิฉันก็คิดอย่างนั้นแต่พอดิฉันโตขึ้นดิฉันก็คิดได้ ถึงแม้ว่าแม่จะไม่สวยจะไม่ดีพอแต่แม่ก็เป็นผู้ให้กำเนิดเรามาอุ้มท้องเรามา ตั้ง 9 เดือนก็เปรียบเสมือนแม่ยกก้อนหิน 9 กิโล ถ้าหากเรายกก้อนหิน 9 กิโล คงจะลำบากแต่แม่ก็ทำได้เพราะว่าแม่อดทน แม่เป็นได้ทั้งเพื่อนทั้งพ่อทั้งครูและเป็นคนที่ให้ ความอบอุ่นความสุขแก่ลูก ถ้าหากเราไม่มีแม่อยู่ด้วยแล้วเราจะรู้สึกเสียดายและเสียใจที่ไม่ได้ตอบแทน พระคุณท่าน มีเด็กหลายคนที่กำพร้าแม่ที่ขาดความอบอุ่นแต่เรามีพร้อมทุกอย่างเราควรทำดี ให้แม่ตอนที่แม่ยังมีชีวิตอยู่มีวันหนึ่งแม่ไปผ่า

ตัดแม่ต้องนอนโรงพยาบาลหลายคืน ทำให้ดิฉันทำกับข้าวไม่เป็น จำสูตรการทำอาหารที่แม่สอนไม่ได้และไม่รู้ว่าจะทำอะไรกิน พอแม่กลับมาดิฉันก็ทำกับข้าวเป็นเพราะแม่คอยเตือนและมีแม่คอยอยู่ข้างๆ กว่าเราจะได้ดีและโตมาถึงขนาดนี้แม่ต้องทุ่มเท ขนาดไหนแม่อยากให้ลูกเรียนสูงๆ แม่พยายามหาเงินเพื่อจะส่งลูกเรียนแม่ไม่อยากให้ลูกลำบากเหมือนแม่ แม่ส่งลูกเรียน จนจบแต่สุดท้ายลูกบางคนกลับทำให้แม่ต้องเสียใจเพราะเรียนไม่จบสิ่งแบบนี้ทำ ให้แม่หมดกำลังใจที่จะสู้ ณ เวลานี้แม่ของดิฉัน ต้องคิดมากและเป็นห่วงพี่สาวที่ไปทำงานเพราะพี่สาวไม่โทรมาหาแม่มาหลาย อาทิตย์แล้ว ทำให้แม่ต้องกลุ้มใจจนกินไม่ได้นอน ไม่หลับจนความดันขึ้นสูง และแม่ห่วงพี่ชายกลัวว่า จะไม่มีภรรยาเพราะดื่มแต่สุรา ดิฉันสงสารแม่มาก ถ้าหากใครได้อ่านเรียงความ ของดิฉัน ดิฉันอยากให้ลูกทุกๆคนคิดและถามใจตัวเองว่าลูกบอกรักแม่หรือยังและรักแม่ หรือป่าวดูแลแม่ดีหรือยังและตอนนี้ทำให้แม่

กลุ้มใจ หรือป่าวรีบทำความดีตอนนี้ก่อนที่แม่จะไม่ได้อยู่กับเราก่อนที่แม่จะจากไป เวรกรรมมีจริงเราทำอะไรไว้กับแม่พอเรามีลูก ลูกของเราก็จะทำกับเราอย่างที่เราทำไว้กับแม่ อยากให้ลูกทุกคนมีจิตสำนึกบ้างที่เรายืนอยู่จุดนี้เพราะใคร การที่เราคลอดลูก ไม่ใช่เรื่องง่ายมันเป็นเรื่องทรมานแม่ต้องทนความเจ็บปวดและทะนุถนอมเรา อย่างดีแม่เคยซักผ้าป้อนข้าวป้อนน้ำให้เราตอนเล็กๆ แต่บางคนก็ยังใช้แม่ซักผ้าอยู่ทั้งๆที่ตัวเองก็โตแล้ว สุดท้ายนี้ดิฉันอยากให้แม่มีความสุขอยากให้แม่มีสุขภาพที่แข็งแรงอย่าให้โรค ภัย มาเบียดเบียนอยากให้แม่อยู่กับฉันไปนานและดิฉันอยากบอกแม่ว่าลูกขอโทษที่เคย ด่าไม่เคยเชื่อฟังและไม่เคยดูแลเอาใจใส่แม่ ต่อไปนี้หนูจะดูแลแม่จะเป็นคนดีจะตั้งใจเรียนเพื่อแม่







วันอาทิตย์ที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2555

ครูในดวงใจ


ครูในดวงใจ


อ.ชิระพร วังบุญคง

                 ลักษณะของอาจารย์ ชิระพร วังบุญคง
1) ท่านเป็นคนอารมณ์ดี อัธยาศัยดี
2) ท่านสอนเข้าใจวิชาภาษาอังกฤษเข้าใจง่ายมาก
3) ท่านสนิทกับครอบครัวของผม
4) ท่านเป็นห่วงเป็นใยลูกศิษย์ทุกคน
5) ท่านคอยเป็นกำลังใจให้ผมเสมอ

                คำว่า ครูถึงแม้จะเป็นคำสั้นๆ แต่ความหมายนั้นยิ่งใหญ่มากมาย ความหมายของคำว่า ครู ในพจนานุกรมให้ไว้ว่า ผู้มีความหนักแน่น ผู้ควรแก่การเคารพของศิษย์ ผู้สั่งสอน แต่สำหรับผมครูเป็นมากกว่านั้น คำว่าครูของผม คือ พ่อหรือแม่คนที่สอง ครู คือ ผู้ทุ่มเท ครู คือ ผู้มีพระคุณและครู คือ ผู้ให้
                เมื่อกล่าวถึง คุณครูในดวงใจ สำหรับผมคุณครู ชิระพร วังบุญคง อยู่ในดวงใจของผม  แต่ครูท่าอื่นก็เป็นครูในดวงใจเหมือนกัน บางครั้งท่านอาจจะดุผมบ้าง เหตุผลที่ท่านดุท่านว่าหรือลงโทษนั้นคุณครูท่านมีเหตุผลเสมอ ไม่มีคุณครูท่านไหนที่ลงโทษนักเรียนโดยไม่มีเหตุผลหรอก ทุกๆครั้งที่ผมโดนอาจารย์ดุหรือโดนลงโทษผมยอมรับว่าไม่ค่อยชอบเหมือนกันแต่เมื่อคิดย้อนถามตัวเราเองว่า เราได้ทำอะไรผิดไปและรู้ว่าเราได้ผิดจริง สิ่งที่ครูลงโทษนั้นยังถือว่าน้อยไปด้วยซ้ำ คุณครูเหนื่อยมามากทั้งทุ่มเทกายใจให้กับการสอนหนังสือถ่ายทอดวิชาความรู้ให้พวกเราและยังต้องคอยอบรมเราอีกด้วยเหตุผลที่ว่าครูอยากให้ศิษย์อย่างเราได้ดีมีวิชาและมีอนาคตที่สดใสกันทุกคน ทุกถ้อยคำสอน ทุกถ้อยคำตักเตือน ทุกข้อระเบียบบังคับที่ครูได้กล่าวออกมามีความหวังเดียวคืออยากให้ศิษย์ได้ดี หลายครั้งที่เราเคยไม่เชื่อฟังคุณครู หรือทำเรื่องเดือดร้อนจนทำให้ครูเป็นห่วง ยกตัวอย่างเช่น เมื่อตอนที่ผมอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ครูที่ปรึกษาของผมกำชับเด็กนักเรียนทุกคนว่าห้ามกลับบ้านเย็นเมื่อเลิกเรียนให้รีบกลับบ้านทันที แต่มีเพื่อนผมคนหนึ่งฝ่าฝืนไปเที่ยวกับเพื่อนต่างโรงเรียนไม่ยอมกลับบ้าน จนผู้ปกครองต้องโทรมาหาครูที่ปรึกษาว่าทำไมลูกไม่กลับบ้านเสียที เมื่อคุณครูทราบเรื่องคุณครูก็รีบตามหาเด็กคนนั้นจนครูกลับบ้านดึก เหตุการณ์นั้นทำให้เพื่อนของผมโดนเตือนอย่างหนักทั้งจากคุณครูและจากผู้ปกครองแต่ถึงครูจะลงโทษหนักยังไงในจิตใจครูก็เต็มไปด้วยความห่วงใยและไม่อยากให้เด็กคนนั้นทำแบบนี้อีก ในใจครูปรารถนาแค่ว่าให้ลูกศิษย์เป็นคนดีของสังคมและได้ดี ผมรักครูชิระพร วังบุญคงมาก